ครบรอบ 1 ปี ของการพิชิตเป้าหมายแรกของชีวิต >>> ออกเที่ยวคนเดียวแบบแอดเวนเจอร์ด้วยเงินเก็บตัวเอง
ครบรอบ 1 ปี กับการเจอเพื่อนคู่ชีวิตที่ดีที่สุด
ครบรอบ 1 ปี กับการใช้ชีวิตเสริมเหล็ก
--------------------------------------------------------------
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...
เริ่มจากช่วงประมาณกลางปี 2557 เราเล่นเฟส แล้วไปเจอฟีดของเพื่อนเฟสบุ๊ค แชร์เพจ เพจนึงที่เป็นเหมือนคนทำสารคดี
พอเข้าไปดู ก็เห็นเรื่องราวที่เขาเขียน ดูสนุกดี ดูเขาเป็นนักเขียน นักเดินทาง ภาษาน่าสนใจ ภาพน่าสนใจ เรื่องราวต่างๆ ที่เขียนลงเพจน่าสนใจ
ก็กด Like เพจอย่าไวเลย แล้วก็ตามอ่าน ตาม Like จนได้คุยกันในคอมเม้นท์บ้าง เขาทักมาบ้าง
การสนทนาก็ออกไปในแนว แชร์ว่าเราอยากเที่ยวแบบสนุกๆ แอดเวนเจอร์แบบเขาบ้าง สักครั้งในชีวิต จนเขาก็ชวนว่าถ้าช่วงไหนมีเวลาว่าง จะพาไป คล้ายๆ ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปช่วยทำสารคดี เก็บเรื่องราว เก็บภาพนู้นนี้ แต่เราก็ยังไม่ได้จริงจังอะไร เพราะช่วงนั้นเราทำงาน7 วัน (ประจำ จ-ศ ส่วน ส-อา สอนพิเศษเด็ก) และบวกกับเราก็ไม่รู้จักกันดี ถึงขั้นจะไปกับเขา เลยเลี่ยงๆ ไป
แต่เราก็ตามดูบ่อยๆ ด้วยความที่ใจชอบสไตล์การเที่ยวแบบนั้น จนวันนึง เห็นเขาไปออกบูธ มีคนมาจองทริปให้พาไปเที่ยว ก็ดูน่าไว้ใจได้
มีคนมาคอมเม้นท์ในเพจ มีคนมาติดตามเขาตลอด เราเลยตัดสินใจคุยกับเขาเรื่องเที่ยวปลายปี เรากะจะลาพักร้อนไป
ก่อนกลับบ้านปีใหม่ ขอเที่ยวอย่างที่ใฝ่ฝันสักครั้งน่า
ตกลงกันได้ว่า...
เราจะไปช่วยเขาถ่ายสารคดี เก็บภาพ ประมาณว่าเป็นลูกมือนิดๆ แต่ต้องมีช่วยค่าน้ำมันเขาบ้าง
เพราะต้องใช้รถเขาในการเดินทางและเขาก็จะจ้างคนมาช่วยในทริปนี้ด้วย อาจจะแบกเป้ สะพายกระเป๋าช่วย เผื่อขึ้นดอยไกล
กับข้าวกับปลา ก็กินกับเรา ติดสอยห้อยตามไป อะไรประมาณนี้
โดยราคาเต็ม ช่วยค่าน้ำมัน: 7, 000 บาท (จองไว้ 1, 000 บาท)
ระยะเวลา: 7 ธันวาคม 2557 ถึง 10 ธันวาคม 2557
การเดินทาง: ใช้รถลุงเจ้าของเพจตลอดการเดินทาง ขาไปจะมารับที่ กทม.
รายละเอียดทริป: เนื่องจากคุยกันกลางๆ ปี เลยไม่ได้วางแผนไรละเอียด เขาแจ้งว่า จะพาไปแม่สอด พาไปม่อนกระทิง ข้ามไปพม่า แล้วขึ้นไปเชียงใหม่ คร่าวๆ ประมาณนี้ เราก็ไม่รู้อะไรมากมาย เออออห่อหมก ไปตามนั้น แต่ในใจนี้ตื่นเต้น อยากไปมากกกกกก
--------------------------------------------------------------
ระหว่างนี้ก็ทำงานอย่างตั้งใจ รอเวลาพิชิตเป้าหมายในชีวิต
--------------------------------------------------------------
เวลาผ่านไป ในระหว่างนั้น เจ้าของเพจที่เราจองทริปเขาไว้ ก็ทักมาเรื่อยๆ มีวันนึงทักมา พร้อมส่งภาพขาเลือดออกมา บอกเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีเงิน กระเป๋าหาย และขอยืมตังเรา เราก็เอ๊ะใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเห็นเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ เขาก็บอกจะเอารถไปจำนอง เอาเงินมาใช้คืนให้ เราก็โอเค
ผ่านไปก็ไม่ได้เงินคืน แล้วมีมายืมอีกรอบ เราก็ยังไม่จำ ไว้ใจเขาอีก ให้ยืมไปอีก
ระหว่างนี้เราก็เริ่มคิดแล้วว่า จะไปเที่ยวคนเดียวไม่น่าจะโอเคนะ
เลยเริ่มหาเพื่อนไปด้วย พอถามเพื่อนคนไหน แล้วบอกว่าต้องไป นอนกับดินกินกับทราย แล้วต้องจ่ายค่าทริปอีก 7, 000 บาท
ก็ไม่มีใครไปด้วย



เศร้าเลย
ระหว่างนั้น มีเพื่อนคนนึง แฮงค์เอ้าท์ด้วยกันบ่อยๆ เริ่มสนิทกันในช่วงนี้พอดี เริ่มเปิดประเด็นถึงเรื่องที่จะไปเที่ยวในครั้งนี้
เขาก็ให้ความเห็นว่า จะไปได้ไงวะคนเดียว ผญ ไปกับ ผช แล้วถ้าไปแบบที่ต้องช่วยเขาถ่ายทำสารคดีไรอีก ทีมงานเขาล่ะ อีกกี่คน
มันเที่ยวแบบสุดโต่ง ไปหน่อยมั้ย มันดูไม่น่าปลอดภัย เราเลยชวนมันไปซะเลย โดยเสนอไปว่าค่าทริป 7,000 ไม่ต้องออก
แต่จะให้อีตาคนที่เราซื้อทริปเนี้ย หักออกจากที่เขายืมเราไปเลย เพราะเราก็เริ่มคิดว่ามันน่ากลัวนิดๆ แล้วแระ เลยได้เพื่อนไปเที่ยว
--------------------------------------------------------------
ใกล้ถึงวันที่จะไป ลุงเจ้าของเพจ ก็โทรมาบอกว่ามารับเราไม่ได้ ติดงาน ให้เรานั่งรถทัวร์ไป เขาจะจองให้ แต่เราต้องไปจ่ายตังค่ารถทัวร์
แล้วเดี๋ยวเขาจะคืนให้หลังจากเจอกันที่นู้น เนื่องจากไม่สะดวกจ่ายเงิน (แอบเซง)
เราก็นะ ไม่คิดมาก (อีกแล้ว) ก็จ่ายไป 2 คน คนละ 428 บาท
--------------------------------------------------------------
>>> 7 ธันวาคม 2557 เวลารถออก 09.00 น. <<<
และแล้ว...ก็ถึงวันออกเดินทาง
นั่งรถไปจนเมื่อย ถึงนู้นก็บ่ายแก่ๆ กะว่าเราคงได้ไปนอนหนาวบนดอยไหนสักดอยแระคืนนี้
ปรากฏว่า ป่าวเลยจ้า ได้ไปที่ฐานทหารก่อนเลยอันดับแรก ทหารก็ดูจะรู้จักชื่อเราดี
"เป็นไงครูก้อย ได้เจอกันสักที" ไอ้เราก็ เห่ยยยยย รู้จักตูได้ไงวะเนี้ยะ
เริ่มใจไม่ดีละ เลยถามลุงเจ้าของเพจ ว่า... วันนี้เราไม่ไปขึ้นดอย ขึ้นม่อน ไหนหรอ เห็นบอกว่าจะพาไปนอนบนอุทยาน อะไรสักอย่าง
แกก็บอกว่าติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้ คงต้องนอนแถวนี้แระ อาจต้องกางเต้นท์นอนที่ ฐานทหารนี้แระ
เพราะแกไม่มีเงินเปิดห้องให้ กระเป๋าตังแกหาย (อีกแล้วคับท่าน)
เราก็คิดในใจ เห่ยยยยยยยยยยยยย ภาพในหัวตูไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ทหารก็ดูน่ากลัว ผช เป็นกองทัพ ตูมา ผญ 2 คน จะบ้าแล้ว
ตอนที่จะมาเที่ยวแบบนี้ ก็ไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้ ไม่เคยกลัวอะไรเลยนะ แต่ก็ดันอยากมา เป็นไงล่ะ เริ่มคิดหนักแระ
แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าไม่พอใจอย่างแรง คิดในใจว่า ไปเปิดห้องนอนเองก็ได้
ระหว่างนั้น ก็โทรหาเพื่อนก่อน จะได้รายงานความคืบหน้า เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น จะได้มีคนรับรู้รับทราบ
เพื่อนบอกให้กลับเลย หรือถ้าไม่มีรถก็ให้กลับพรุ่งนี้เช้าก็ได้ เราก็คิดอยู่ว่าจะกลับพรุ่งนี้เลย
เพราะดูท่า ลุงเจ้าของเพจ แกไม่มีตัง ไม่มีทีมงาน ไม่มีอุปกรณ์การถ่ายทำ ใดๆ ทั้งสิ้น ภาพที่เราเห็นในเพจ กับความเป็นจริงมันช่างต่างกันสิ้นเชิง
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่ทหาร (ยศสูงเลยนะ เป็นหัวหน้าของกองนี้ ไม่รู้เรียกว่าอะไร) ก็มาเรียกไปกินข้าว
พี่ทหารที่เป็นพ่อครัวก็ทำกับข้าวอร่อยได้อีก กินข้าวจนลืมสิ่งที่กำลังกังวลใจเลยเชียวละ
กินไป คุยไป ก็เพลินๆ ดี จนดึกละ เริ่มง่วง พี่ทหารใจดี เปิดห้องพักให้อีก
แต่ต้องนอนกัน 3 คน เนื่องจากห้องพักเต็ม ชีวิต รันทดมาก
ก่อนนอน ลุงเจ้าของเพจก็บอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวดูการทำงานของทหารแต่เช้า แล้วเดินทางต่อไป อ. พบพระ
ในใจเริ่มไม่สนุกละ แต่นอนเอาแรงก่อน เดินทางมาเหนื่อยมาก แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ แอบกลัว
--------------------------------------------------------------
>>> 8 ธันวาคม 2557 <<<
เช้ามา ปรึกษากับเพื่อนที่ไปด้วยกัน ว่าเรากลับกันมั้ย หรือไม่ก็ไปเชียงใหม่ เชียงราย หรือที่ไหนก็ได้ ไม่อยากอยู่แล้ว
เพื่อนก็ปลอบใจ ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปต่อเถอะ น่าสนุกดี ได้ข้ามไปฝั่งพม่าด้วยนะ ไหนๆ ก็เสียตังไปแล้ว (เอิ่มมมมมมม )
เอาก็เอาวะ ก็แต่งตัว เก็บของ ขึ้นรถไปฐานทหาร แล้วก็นั่งรถไปกับเขา ดูการทำงาน นู้นนี้ แล้วก็กินข้าวกินปลา
มื้อเช้า มื้อเที่ยง พี่ทหารเลี้ยงตลอดเลยจ้า ลุงเจ้าของเพจนี้ก็กินเหล้าทุกมื้อเลย แอบเซง

ภาพที่พอจะมีอยู่ในมือถือเรา ถ่ายช่วงเช้าที่ออกไปดูการทำงานของพี่ทหาร
แล้วพอกินข้าวเที่ยงเสร็จ ลุงเจ้าของเพจก็พาเราไป บ้านมอร์เกอไทย อ. พบพระ
เป็นบ้านของนายทหารเก่า ที่ออกมาทำไร่กับภรรยา บ้านอยู่ติดคลอง สามารถข้ามคลองนี้ไปฝั่งพม่า ได้เลยนะ
เรานี้เริ่มตื่นเต้นละ เริ่มสนุกกับวันพรุ่งนี้ของเรา
มาที่นี้ก็ได้นอนเต้นท์ ข้างคลองเลย นี้แระ ได้บรรยากาศดีมาก ป้าเจ้าของบ้านใจดีมากทำกับข้าวอร่อย
ให้เสื้อเรากับเพื่อนคนละตัว เป็นเสื้อของเผ่าปกากะญอ ทอมือเองด้วยนะ สวยดี
***จุดเล็กๆ ของวันนี้***
ระหว่างที่มานี้ รู้สึกดีกับทุกคนเลย ยกเว้นลุงเจ้าของเพจที่เรามาด้วย ความรู้สึกติดลบ เราไม่ค่อยชอบอารมณ์ไม่เคลียร์ของแกเท่าไร
ทำตัวมีอะไรปิดบัง ดูมีความลับตลอดเวลา ตังที่เราจ่ายค่าทริปนี้ไป เราไม่เห็นว่าแกจะต้องจ่ายอะไรเลย เลยรู้สึกไม่แฟร์
ความสนุกที่มาทริปนี้ก็เลย สนุกแบบติดลบมากๆ เราเลยคิดว่าเราจะกลับพรุ่งนี้เช้า ไม่ไปต่อแล้ว
เรากับเพื่อนก็เตรียมดูตารางเวลารถกันไว้แล้ว ตั้งใจว่าพรุ่งนี้กลับกันแน่ๆ
--------------------------------------------------------------
>>> 9 ธันวาคม 2557 เช้า <<<
ตื่นเช้ามา ป้าเจ้าของบ้านก็พาเรานั่งรถอีแต๋น ข้ามไปฝั่งพม่า รัฐกะเหรี่ยง DKBA เรานี้ชอบเลย ถนนหนทางสุดยอดมากๆ
ได้ไปลองชิมยำกะเหรี่ยง ไปดูการฝึกทหารของรัฐฉาน มีฝรั่งคณะนึงเขามาบริจาคของด้วย
ใช้เวลากับการเดินทางไปกับรถอีแต๋นนี้ก็ 3-4 ชั่วโมง จนกลับมาบ้านด้วยความหิว
ระหว่างไปลุงเจ้าของเพจนี้ก็กระดกเหล้าตลอดทางเลย กรึบๆ ตลอด เห็นแล้วก็เพลียจิต
พอกลับมาถึงบ้าน กินข้าวกันเสร็จ เราก็แจ้งลุงเจ้าของเพจเลยว่าเราอยากกลับละ เราเหนื่อยมาก ช่วยไปส่งเราที่ บขส. หน่อย
แกก็จะชวนเราไปเที่ยวทีลอซูต่อบ้างละ โน้มน้าวให้อยู่ต่อบ้างละ
เรากับเพื่อนก็ไม่โอเค แกก็ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เราก็เฉยๆ ไม่สนใจ ตูอยากกลับละ
พอเก็บของเสร็จก็เตรียมพร้อม ร่ำลาลุงกับป้าเจ้าของบ้าน
อีตาลุงเจ้าของเพจก็ยังไม่วาย กินเหล้าอีกแล้วจ้า
ขับรถกันออกมา เราไม่อยากนั่งหน้า เลยให้เพื่อนนั่ง ส่วนเรานั่งด้านหลัง ฝั่งเพื่อน
ระหว่างนั้นไม่มีใครคุยกันเลย เราเลยกะจะหลับยาว ให้เถอะ บขส ขี้เกียจคุย
>>> 9 ธันวาคม 2557 เวลาบ่ายสองโมงกว่าๆ และวินาทีชีวิตก็มาถึง <<<
เที่ยวตามอำเภอใจ...ตอน...กรุงเทพฯ-แม่สอด เกือบไม่รอดชีวิต
ครบรอบ 1 ปี กับการเจอเพื่อนคู่ชีวิตที่ดีที่สุด
ครบรอบ 1 ปี กับการใช้ชีวิตเสริมเหล็ก
--------------------------------------------------------------
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...
เริ่มจากช่วงประมาณกลางปี 2557 เราเล่นเฟส แล้วไปเจอฟีดของเพื่อนเฟสบุ๊ค แชร์เพจ เพจนึงที่เป็นเหมือนคนทำสารคดี
พอเข้าไปดู ก็เห็นเรื่องราวที่เขาเขียน ดูสนุกดี ดูเขาเป็นนักเขียน นักเดินทาง ภาษาน่าสนใจ ภาพน่าสนใจ เรื่องราวต่างๆ ที่เขียนลงเพจน่าสนใจ
ก็กด Like เพจอย่าไวเลย แล้วก็ตามอ่าน ตาม Like จนได้คุยกันในคอมเม้นท์บ้าง เขาทักมาบ้าง
การสนทนาก็ออกไปในแนว แชร์ว่าเราอยากเที่ยวแบบสนุกๆ แอดเวนเจอร์แบบเขาบ้าง สักครั้งในชีวิต จนเขาก็ชวนว่าถ้าช่วงไหนมีเวลาว่าง จะพาไป คล้ายๆ ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปช่วยทำสารคดี เก็บเรื่องราว เก็บภาพนู้นนี้ แต่เราก็ยังไม่ได้จริงจังอะไร เพราะช่วงนั้นเราทำงาน7 วัน (ประจำ จ-ศ ส่วน ส-อา สอนพิเศษเด็ก) และบวกกับเราก็ไม่รู้จักกันดี ถึงขั้นจะไปกับเขา เลยเลี่ยงๆ ไป
แต่เราก็ตามดูบ่อยๆ ด้วยความที่ใจชอบสไตล์การเที่ยวแบบนั้น จนวันนึง เห็นเขาไปออกบูธ มีคนมาจองทริปให้พาไปเที่ยว ก็ดูน่าไว้ใจได้
มีคนมาคอมเม้นท์ในเพจ มีคนมาติดตามเขาตลอด เราเลยตัดสินใจคุยกับเขาเรื่องเที่ยวปลายปี เรากะจะลาพักร้อนไป
ก่อนกลับบ้านปีใหม่ ขอเที่ยวอย่างที่ใฝ่ฝันสักครั้งน่า
ตกลงกันได้ว่า...
เราจะไปช่วยเขาถ่ายสารคดี เก็บภาพ ประมาณว่าเป็นลูกมือนิดๆ แต่ต้องมีช่วยค่าน้ำมันเขาบ้าง
เพราะต้องใช้รถเขาในการเดินทางและเขาก็จะจ้างคนมาช่วยในทริปนี้ด้วย อาจจะแบกเป้ สะพายกระเป๋าช่วย เผื่อขึ้นดอยไกล
กับข้าวกับปลา ก็กินกับเรา ติดสอยห้อยตามไป อะไรประมาณนี้
โดยราคาเต็ม ช่วยค่าน้ำมัน: 7, 000 บาท (จองไว้ 1, 000 บาท)
ระยะเวลา: 7 ธันวาคม 2557 ถึง 10 ธันวาคม 2557
การเดินทาง: ใช้รถลุงเจ้าของเพจตลอดการเดินทาง ขาไปจะมารับที่ กทม.
รายละเอียดทริป: เนื่องจากคุยกันกลางๆ ปี เลยไม่ได้วางแผนไรละเอียด เขาแจ้งว่า จะพาไปแม่สอด พาไปม่อนกระทิง ข้ามไปพม่า แล้วขึ้นไปเชียงใหม่ คร่าวๆ ประมาณนี้ เราก็ไม่รู้อะไรมากมาย เออออห่อหมก ไปตามนั้น แต่ในใจนี้ตื่นเต้น อยากไปมากกกกกก
--------------------------------------------------------------
ระหว่างนี้ก็ทำงานอย่างตั้งใจ รอเวลาพิชิตเป้าหมายในชีวิต
--------------------------------------------------------------
เวลาผ่านไป ในระหว่างนั้น เจ้าของเพจที่เราจองทริปเขาไว้ ก็ทักมาเรื่อยๆ มีวันนึงทักมา พร้อมส่งภาพขาเลือดออกมา บอกเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีเงิน กระเป๋าหาย และขอยืมตังเรา เราก็เอ๊ะใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเห็นเขากำลังต้องการความช่วยเหลือ เขาก็บอกจะเอารถไปจำนอง เอาเงินมาใช้คืนให้ เราก็โอเค
ผ่านไปก็ไม่ได้เงินคืน แล้วมีมายืมอีกรอบ เราก็ยังไม่จำ ไว้ใจเขาอีก ให้ยืมไปอีก
ระหว่างนี้เราก็เริ่มคิดแล้วว่า จะไปเที่ยวคนเดียวไม่น่าจะโอเคนะ
เลยเริ่มหาเพื่อนไปด้วย พอถามเพื่อนคนไหน แล้วบอกว่าต้องไป นอนกับดินกินกับทราย แล้วต้องจ่ายค่าทริปอีก 7, 000 บาท
ก็ไม่มีใครไปด้วย
ระหว่างนั้น มีเพื่อนคนนึง แฮงค์เอ้าท์ด้วยกันบ่อยๆ เริ่มสนิทกันในช่วงนี้พอดี เริ่มเปิดประเด็นถึงเรื่องที่จะไปเที่ยวในครั้งนี้
เขาก็ให้ความเห็นว่า จะไปได้ไงวะคนเดียว ผญ ไปกับ ผช แล้วถ้าไปแบบที่ต้องช่วยเขาถ่ายทำสารคดีไรอีก ทีมงานเขาล่ะ อีกกี่คน
มันเที่ยวแบบสุดโต่ง ไปหน่อยมั้ย มันดูไม่น่าปลอดภัย เราเลยชวนมันไปซะเลย โดยเสนอไปว่าค่าทริป 7,000 ไม่ต้องออก
แต่จะให้อีตาคนที่เราซื้อทริปเนี้ย หักออกจากที่เขายืมเราไปเลย เพราะเราก็เริ่มคิดว่ามันน่ากลัวนิดๆ แล้วแระ เลยได้เพื่อนไปเที่ยว
--------------------------------------------------------------
ใกล้ถึงวันที่จะไป ลุงเจ้าของเพจ ก็โทรมาบอกว่ามารับเราไม่ได้ ติดงาน ให้เรานั่งรถทัวร์ไป เขาจะจองให้ แต่เราต้องไปจ่ายตังค่ารถทัวร์
แล้วเดี๋ยวเขาจะคืนให้หลังจากเจอกันที่นู้น เนื่องจากไม่สะดวกจ่ายเงิน (แอบเซง)
เราก็นะ ไม่คิดมาก (อีกแล้ว) ก็จ่ายไป 2 คน คนละ 428 บาท
--------------------------------------------------------------
>>> 7 ธันวาคม 2557 เวลารถออก 09.00 น. <<<
และแล้ว...ก็ถึงวันออกเดินทาง
นั่งรถไปจนเมื่อย ถึงนู้นก็บ่ายแก่ๆ กะว่าเราคงได้ไปนอนหนาวบนดอยไหนสักดอยแระคืนนี้
ปรากฏว่า ป่าวเลยจ้า ได้ไปที่ฐานทหารก่อนเลยอันดับแรก ทหารก็ดูจะรู้จักชื่อเราดี
"เป็นไงครูก้อย ได้เจอกันสักที" ไอ้เราก็ เห่ยยยยย รู้จักตูได้ไงวะเนี้ยะ
เริ่มใจไม่ดีละ เลยถามลุงเจ้าของเพจ ว่า... วันนี้เราไม่ไปขึ้นดอย ขึ้นม่อน ไหนหรอ เห็นบอกว่าจะพาไปนอนบนอุทยาน อะไรสักอย่าง
แกก็บอกว่าติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้ คงต้องนอนแถวนี้แระ อาจต้องกางเต้นท์นอนที่ ฐานทหารนี้แระ
เพราะแกไม่มีเงินเปิดห้องให้ กระเป๋าตังแกหาย (อีกแล้วคับท่าน)
เราก็คิดในใจ เห่ยยยยยยยยยยยยย ภาพในหัวตูไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ทหารก็ดูน่ากลัว ผช เป็นกองทัพ ตูมา ผญ 2 คน จะบ้าแล้ว
ตอนที่จะมาเที่ยวแบบนี้ ก็ไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้ ไม่เคยกลัวอะไรเลยนะ แต่ก็ดันอยากมา เป็นไงล่ะ เริ่มคิดหนักแระ
แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าไม่พอใจอย่างแรง คิดในใจว่า ไปเปิดห้องนอนเองก็ได้
ระหว่างนั้น ก็โทรหาเพื่อนก่อน จะได้รายงานความคืบหน้า เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น จะได้มีคนรับรู้รับทราบ
เพื่อนบอกให้กลับเลย หรือถ้าไม่มีรถก็ให้กลับพรุ่งนี้เช้าก็ได้ เราก็คิดอยู่ว่าจะกลับพรุ่งนี้เลย
เพราะดูท่า ลุงเจ้าของเพจ แกไม่มีตัง ไม่มีทีมงาน ไม่มีอุปกรณ์การถ่ายทำ ใดๆ ทั้งสิ้น ภาพที่เราเห็นในเพจ กับความเป็นจริงมันช่างต่างกันสิ้นเชิง
ระหว่างที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่ทหาร (ยศสูงเลยนะ เป็นหัวหน้าของกองนี้ ไม่รู้เรียกว่าอะไร) ก็มาเรียกไปกินข้าว
พี่ทหารที่เป็นพ่อครัวก็ทำกับข้าวอร่อยได้อีก กินข้าวจนลืมสิ่งที่กำลังกังวลใจเลยเชียวละ
กินไป คุยไป ก็เพลินๆ ดี จนดึกละ เริ่มง่วง พี่ทหารใจดี เปิดห้องพักให้อีก
แต่ต้องนอนกัน 3 คน เนื่องจากห้องพักเต็ม ชีวิต รันทดมาก
ก่อนนอน ลุงเจ้าของเพจก็บอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวดูการทำงานของทหารแต่เช้า แล้วเดินทางต่อไป อ. พบพระ
ในใจเริ่มไม่สนุกละ แต่นอนเอาแรงก่อน เดินทางมาเหนื่อยมาก แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ แอบกลัว
--------------------------------------------------------------
>>> 8 ธันวาคม 2557 <<<
เช้ามา ปรึกษากับเพื่อนที่ไปด้วยกัน ว่าเรากลับกันมั้ย หรือไม่ก็ไปเชียงใหม่ เชียงราย หรือที่ไหนก็ได้ ไม่อยากอยู่แล้ว
เพื่อนก็ปลอบใจ ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปต่อเถอะ น่าสนุกดี ได้ข้ามไปฝั่งพม่าด้วยนะ ไหนๆ ก็เสียตังไปแล้ว (เอิ่มมมมมมม )
เอาก็เอาวะ ก็แต่งตัว เก็บของ ขึ้นรถไปฐานทหาร แล้วก็นั่งรถไปกับเขา ดูการทำงาน นู้นนี้ แล้วก็กินข้าวกินปลา
มื้อเช้า มื้อเที่ยง พี่ทหารเลี้ยงตลอดเลยจ้า ลุงเจ้าของเพจนี้ก็กินเหล้าทุกมื้อเลย แอบเซง
ภาพที่พอจะมีอยู่ในมือถือเรา ถ่ายช่วงเช้าที่ออกไปดูการทำงานของพี่ทหาร
แล้วพอกินข้าวเที่ยงเสร็จ ลุงเจ้าของเพจก็พาเราไป บ้านมอร์เกอไทย อ. พบพระ
เป็นบ้านของนายทหารเก่า ที่ออกมาทำไร่กับภรรยา บ้านอยู่ติดคลอง สามารถข้ามคลองนี้ไปฝั่งพม่า ได้เลยนะ
เรานี้เริ่มตื่นเต้นละ เริ่มสนุกกับวันพรุ่งนี้ของเรา
มาที่นี้ก็ได้นอนเต้นท์ ข้างคลองเลย นี้แระ ได้บรรยากาศดีมาก ป้าเจ้าของบ้านใจดีมากทำกับข้าวอร่อย
ให้เสื้อเรากับเพื่อนคนละตัว เป็นเสื้อของเผ่าปกากะญอ ทอมือเองด้วยนะ สวยดี
***จุดเล็กๆ ของวันนี้***
ระหว่างที่มานี้ รู้สึกดีกับทุกคนเลย ยกเว้นลุงเจ้าของเพจที่เรามาด้วย ความรู้สึกติดลบ เราไม่ค่อยชอบอารมณ์ไม่เคลียร์ของแกเท่าไร
ทำตัวมีอะไรปิดบัง ดูมีความลับตลอดเวลา ตังที่เราจ่ายค่าทริปนี้ไป เราไม่เห็นว่าแกจะต้องจ่ายอะไรเลย เลยรู้สึกไม่แฟร์
ความสนุกที่มาทริปนี้ก็เลย สนุกแบบติดลบมากๆ เราเลยคิดว่าเราจะกลับพรุ่งนี้เช้า ไม่ไปต่อแล้ว
เรากับเพื่อนก็เตรียมดูตารางเวลารถกันไว้แล้ว ตั้งใจว่าพรุ่งนี้กลับกันแน่ๆ
--------------------------------------------------------------
>>> 9 ธันวาคม 2557 เช้า <<<
ตื่นเช้ามา ป้าเจ้าของบ้านก็พาเรานั่งรถอีแต๋น ข้ามไปฝั่งพม่า รัฐกะเหรี่ยง DKBA เรานี้ชอบเลย ถนนหนทางสุดยอดมากๆ
ได้ไปลองชิมยำกะเหรี่ยง ไปดูการฝึกทหารของรัฐฉาน มีฝรั่งคณะนึงเขามาบริจาคของด้วย
ใช้เวลากับการเดินทางไปกับรถอีแต๋นนี้ก็ 3-4 ชั่วโมง จนกลับมาบ้านด้วยความหิว
ระหว่างไปลุงเจ้าของเพจนี้ก็กระดกเหล้าตลอดทางเลย กรึบๆ ตลอด เห็นแล้วก็เพลียจิต
พอกลับมาถึงบ้าน กินข้าวกันเสร็จ เราก็แจ้งลุงเจ้าของเพจเลยว่าเราอยากกลับละ เราเหนื่อยมาก ช่วยไปส่งเราที่ บขส. หน่อย
แกก็จะชวนเราไปเที่ยวทีลอซูต่อบ้างละ โน้มน้าวให้อยู่ต่อบ้างละ
เรากับเพื่อนก็ไม่โอเค แกก็ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เราก็เฉยๆ ไม่สนใจ ตูอยากกลับละ
พอเก็บของเสร็จก็เตรียมพร้อม ร่ำลาลุงกับป้าเจ้าของบ้าน
อีตาลุงเจ้าของเพจก็ยังไม่วาย กินเหล้าอีกแล้วจ้า
ขับรถกันออกมา เราไม่อยากนั่งหน้า เลยให้เพื่อนนั่ง ส่วนเรานั่งด้านหลัง ฝั่งเพื่อน
ระหว่างนั้นไม่มีใครคุยกันเลย เราเลยกะจะหลับยาว ให้เถอะ บขส ขี้เกียจคุย
>>> 9 ธันวาคม 2557 เวลาบ่ายสองโมงกว่าๆ และวินาทีชีวิตก็มาถึง <<<